Saturday, July 4, 2009

ในโรงเรียนสถาปัตย์ตอนที่สอง คุณมีแววจะเป็นนักเรียนสถาปัตย์ได้มั้ย ?














ตึกนี่มันงามมั้ย (zaha hadid, london 2012)

อะไรคือ แวว ?

แววคือการดูว่าคนที่จะเข้ามาเรียนสถาปัตย์นั้น น่าจะมีความสามารถอย่างน้อยก็พื้นฐานที่จะเรียนได้
ห้าอย่างที่จำเป็นอย่างมากสำหรับการบอกว่ามีแววมั้ย

1.คุณต้องคิดเชิงสร้างสรรค์ได้ ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่ความคิดเลอะเทอะ ไม่ใช่ความคิดที่ต้องการจะแปลก ไม่เหมือนใคร ไม่ใช่ความคิดที่ไม่มีเหตุผลรองรับไม่มีที่มาที่ไป แต่ความคิดสร้างสรรค์คือความคิดที่ช่วยทำให้งานออกแบบของคุณไปไกลกว่าประสบการณ์ที่คุณเคยเห็นมา ความคิดสร้างสรรค์คือกระบวนความคิดเพื่อทำให้งานออกแบบของคุณเป็นอย่างที่คนอื่นไม่เคยทำมาก่อน และมันทำให้งานออกแบบของคุณมีคุณค่า

ลองคิดว่า ถ้าคุณได้รับโปรแกรมออกแบบ แก้วสำหรับผู้สูงอายุ คุณจะออกแบบมันยังไง ?
ถ้าคุณยังคิดถึงแก้วที่เอาไว้ดื่มน้ำใสๆ แสดงว่าคุณยังไม่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เลย
ถ้าคุณเริ่มคิดว่าแก้วน้ำกับผู้สูงอายุมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เริ่มน่าสนใจ
ถ้าคุณเริ่มคิดว่าคุณสมบัติของน้ำให้คุณค่าแก่ผู้สูงอายุได้อย่างไร เริ่มน่าสนใจ
บางทีน้ำอาจไม่ใช่แค่น้ำแต่มันหมายถึงชีวิต บางทีน้ำอาจสื่อความหมายถึงการมีสุขภาพที่ดี
บางทีน้ำอาจหมายถึง "การต่อชีวิต" ที่นี่ลองคิดซิว่าภาชนะที่จะมาบรรจุน้ำในฐานะ "การต่อชีวิต"
สำหรับผู้สูงอายุจะเป็นยังไง ไม่ใช่แก้วใสๆ แล้วใช่มั้ย?

ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีถูกผิด คุณคิดอะไรก็ได้ แต่มันต้องมีตรรกะบอกที่มาที่ไปได้ และต้องเป็นสิ่งที่มัน "ใหม่"

2. คุณต้องเข้าใจความงาม
บางคนบอกว่าความงามเป็นสิ่งที่วัดไม่ได้ เราไม่สามารถเอาอะไรมาชี้วัดได้ว่าอะไรงามกว่ากัน มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์แต่ละคนแต่ในขณะเดียวกันเวลาผู้คนตัดสินอะไร เราก็ใช้ความงามเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินมันเหมือนกัน

อย่างเช่นไอโฟน ทำไมคนถึงอยากได้มันนัก? นอกเหนือจากการตลาดขั้นเทพแล้ว งานดีไซน์ของ mac คิดเรื่องความงามเป็นอย่างมาก

ความงามทำให้เกิดความรื่นรมณ์ในการใช้งาน ในการเรียนสถาปัตยกรรมก็เช่นเดียวกัน คุณจะมีแววเป็นนักเรียนสถาปัตย์ได้ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าอะไรงามไม่งาม คุณอาจต้องเริ่ม มองไปรอบๆตัวคุณแล้วถามว่า อันนี้สวยมั้ย ตึกที่เราเดินผ่านมามันสวยมั้ย ทำไมมันสวย

คุณอาจต้องลองไปหาหนังสือหรือเปิดเว็บไซต์สถาปัตย์ลองดูว่าสถาปนิกระดับโลกเค้าทำอะไรกัน
และคุณคิดว่ามันเป็นยังไงบ้าง คุณลองออกแบบอะไรแล้วมันสวยมั้ย sketch ในสมุดของคุณ ใช้สีระบายมันออกมา คุณเข้าใจเรื่องสีมั้ย ? องค์ประกอบทางศิลปะละคุณเข้าใจหรือเปล่า?

3. คุณต้องเขียนภาพหรือใช้สื่ออื่นๆเพื่อนำเสนอมันออกมาได้
คุณคิดได้ คุณเข้าใจความงามแล้ว คุณต้องเขียนมันออกมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสอบเข้า เรียนสตูดิโอ เจอลูกค้า การ sketch เป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องเรียนรู้ที่จะหัดเขียนทัศนียภาพ และที่สำคัญเป็นทัศนียภาพทางสถาปัตยกรรม ! คุณเขียนรูปเพื่อแสดงตึก ไม่ใช่เขียนรูปเล่น

คุณต้องเขียนภาพเพื่อแสดงให้เห็นว่าอาคารที่คุณทำมันดียังไง มุมไหนของมันที่โดดเด่น คนต้นไม้ อื่นๆ เป็นการสร้างบรรยากาศ ผมเห็นเด็กๆในโรงเรียนติวหลายๆที่เขียนทัศนียภาพเป็นเรื่องของคน ที่คนเต็มไปหมด จากมุมหนอนมองบ้าง เห็นแต่เท้าคนบ้าง (อย่างที่บอกว่าถาปัดไม่ใช่เรื่องมาทำอะไรแนวๆ และถ้าคุณสนใจคนมากคุณควรไปเรียนเขียนภาพเหมือนคนดีกว่า)

แปลนเป็นยังไง รูปด้านเป็นยังไง สามมิติคืออะไร คุณต้องตอบได้ คุณต้องหัดเขียนของที่คุณออกแบบให้ได้ทุกมุมม ลองหมุนมันไปมา ในหัวของคุณ แล้วลองเขียนออกมา
ฟังดูเหนื่อยใช่มั้ย ใช่! แต่ว่าไม่มีทางใดที่จะทำให้คุณเข้าใจมันได้นอกจากคุณต้องทำมันเอง

4. คุณต้องพูดหรือเขียนคำ แสดงการประสานระหว่างความคิดและงานออกแบบของคุณ เพื่อแสดงความคิดนำเสนอมันออกมาได้การนำเสนอเป็นสิ่งสำคัญ ในเพลท sketch design คุณต้องเขียนอธิบายมัน เช่นเดียวสามข้อข้างบน คุณต้องรู้ว่า คุณเขียนมันไปทำไม

เช่นถ้าคุณได้รับโปรแกรมการออกแบบซุ้มประตู คุณต้องเขียนว่าคุณคิดมันมาจากอะไร ทำไมมันถึงออกมาแบบที่คุณคิด ไม่ใช่มาบอกว่า "ซุ้มประตูคือที่คนเดินผ่านไปมา (รู้อยู่แล้ว) เป็นพื้นที่ซึ่งอยู่หน้าตึก (อันนี้ก็รู้อยู่แล้ว)" เห็นเขียนกันอย่างนี้เยอะมาก เสียเวลา!

5. คุณต้องทำงานภายใต้แรงกดดันได้
ทั้งการสอบเข้าและการเรียนจริงๆ คุณต้องแข่งขันกับเวลา สอบเข้าจะเป็นตัววัดใจอย่างหนึ่ง คุณต้องแสดงทุกอย่างในสี่ข้อข้างบนในเวลาสองถึงสามชั่วโมง เพื่อตัดสินคุณไปตลอดชีวิต !
มือคุณจะต้องสั่น คุณจะคิดไม่ออก เมื่อคุณหันไปหาคนข้างๆ มันกำลังลงสีอย่างเมามันส์ คุณจะรู้สึกเหมือนอยากจะกลับบ้าน

แต่คุณก็รู้ว่าคุณตายแน่ ถ้าคุณทำไอ้ skecth ตรงหน้าคุณไม่ได้ และคุณจะเขี่ยๆมันไปไม่ได้ คุณต้องสร้างสรรค์ คุณต้องงาม และคุณต้องเข้าใจได้ (ฮ่า)

เริ่มถามตัวเองสิ คุณมีแววในสี่ห้าข้อนี่มั้ย?
ที่ผมเขียนมาอาจฟังดูน่ากลัว สยองขวัญ แต่ถ้าคุณชอบมันจริงๆ
มันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย มันสนุก มันมีความสุข

ลองถามตัวเองดู ถ้าอยากเรียนจริงๆ ต้องเริ่มลุยแล้วละ
คราวหน้าจะพูดถึง portfolio คืออะไร และมันสำคัญยังไงบ้าง

No comments:

Post a Comment